อากาศแปรปรวน เตือนผู้ปกครองดูแลสุขภาพลูกน้อย | PG&P THAI

19-12-2012 23:11:08
(0) ที่ชื่นชอบ
   
(3072) เปิดดู

 

ระยะนี้อากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตกอากาศเย็น คุณพ่อคุณแม่คงต้องให้การดูแลลูกน้อยเป็นพิเศษ  เพราะภัยร้ายอย่างปอดบวมอาจจะมาเยือนถ้าไม่ทันระวัง  

โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบในเด็ก  เป็นการอักเสบติดเชื้อเฉียบพลันของเนื้อปอด  รวมทั้งหลอดลมและถุงลม  ทำให้ความสามารถในการทำงานของทางเดินหายใจลดลง  เป็นโรคที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วยรุนแรง  บางครั้งอาจทำให้เด็กพิการและเสียชีวิตได้  โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กที่เกิดมามีน้ำหนักตัวน้อย เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี  เด็กขาดอาหารหรือเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลกพบว่า โรคปอดอักเสบเป็นสาเหตุของการตายเป็นอันดับหนึ่งในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ในแต่ละปีจะมีเด็กทั่วโลกที่เสียชีวิตจากปอดอักเสบปีละ 2.4 ล้านคน ทีเดียว

สาเหตุของโรคปอดอักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากติดเชื้อ ซึ่งพบได้ทั้งการเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย  มักจะมีอาการเริ่มต้นโดยเป็นหวัดก่อน 2-3 วัน ส่วนน้อยเกิดจากเชื้อรา พยาธิ หรืออาจเกิดจากการแพ้ การระคายเคืองต่อสารที่สูดดมเข้าไป  ซึ่งเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ เข้าสู่ร่างกายได้หลายวิธี เช่น การสูดหายใจเอาเชื้อโรคที่มีอยู่ในอากาศเข้าไปโดยตรง การสำลัก การกระจายของเชื้อตามกระแสเลือดไปสู่ปอด เด็กส่วนใหญ่ติดเชื้อโดยการสูดสำลักเอาเชื้อก่อโรคที่อยู่บริเวณคอเข้าไปในหลอดลมส่วนปลายหรือถุงลมปอด เชื้อเกิดการแบ่งตัวและก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบตามมา

 พญ.เมธินี  โพธิวราพรรณ   แพทย์ผู้ช่วยอาจารย์สาขาระบบหายใจและไอซียู  สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาการของโรคปอดอักเสบในเด็กไว้ว่า “อาการของผู้ป่วยโรคปอดอักเสบแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ อายุของผู้ป่วยและความรุนแรงของโรค  โดยที่ผู้ป่วยปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส มักมีอาการไข้หวัดก่อนนำมาก่อนสัก 2-3 วัน  ได้แก่ ไข้ น้ำมูก ไอมีเสมหะ ตามมาด้วยอาการ หายใจลำบาก หายใจเร็ว จมูกบาน ส่วนมากอาการไม่รุนแรง อาจดีขึ้นได้เอง   อัตราการเสียชีวิตต่ำเมื่อเทียบกับเชื้อแบคทีเรีย

การสังเกตุอาการเบื้องต้นของโรคปอดบวมอยู่ในภาวะป่วยหนักหรือรุนแรง  จะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้คือ  ไม่ยอมกินนมหรือน้ำ  ซึมมากปลุกตื่นยาก  หายใจมีเสียง  หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม  มีอาการขาดน้ำ ค่าความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำ   ซึ่งถือว่าเป็นภาวะป่วยหนักควรรับการรักษาในโรงพยาบาล

 สำหรับแนวทางการรักษา  พญ.เมธินี กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ อายุผู้ป่วย และความรุนแรงของโรค ในเด็กที่ป่วยเป็นปอดบวมในระยะแรก หรือไม่รุนแรง มีอาการไข้สูง ไอ หายใจเร็ว ควรพาไปรับการรักษาจากแพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะและให้มาดูแลที่บ้านเช่นเดียวกับโรคหวัด  จากนั้นแพทย์อาจนัดมาดูอาการเป็นระยะ   ขณะรักษาตัวที่บ้านให้ดูแลทั่วไปคือกินอาหารตามปกติ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อน กินยาตามแพทย์สั่ง หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบนำไปตรวจหรือไปตรวจตามแพทย์นัด  ส่วนคนไข้ขณะนอนโรงพยาบาล แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้และเช็ดตัวลดไข้ เคาะปอดเพื่อระบายเสมหะออก ให้ออกซิเจน ให้ยาขยายหลอดลม ให้ยาขับเสมหะ กระตุ้นให้ดื่มน้ำอุ่นช่วยระบายเสมหะ ส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ เพื่อลดปริมาณการใช้ออกซิเจนในร่างกาย และบางครั้งอาจให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย”

 สำหรับแนวทางในการป้องกันโรคกลุ่มอาการไข้หวัดและปอดบวมจะเหมือนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ

oหลีกเลี่ยงการสัมผัสโรค โดยไม่ควรให้เด็กใกล้ชิดหรือคลุกคลีกับผู้ป่วยทุกประเภท หลีกเลี่ยงการนำเด็กไปอยู่ในที่แออัด เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีควรดูแลที่บ้าน ไม่ควรส่งไปเลี้ยงตามสถานเลี้ยงเด็ก และถ้าเด็กมีอาการไอ จาม มีน้ำมูกควรพิจารณาใช้ผ้าปิดปากและจมูก ควรทำความสะอาดของเล่นเด็กบ่อยๆ

oมีอนามัยส่วนบุคคล โดยฝึกหัดให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ไม่ขยี้ตาหรือจมูก และควรดูแลความสะอาดของบ้านเรือนให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมที่ทำให้เป็นหวัดและปอดบวมได้ง่าย คือ  การอยู่ในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่,    บ้านที่ใช้ฟืนหุงต้มอาหารและมีควันในบ้าน  เช่น ควันไฟ ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์

o เพิ่มความต้านทานโรค ควรให้เด็กได้รับนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน และให้อาหารครบ 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ   ที่สำคัญควรนำเด็กทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามมาตรฐานกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนเสริมบางชนิดที่ช่วยลดการเกิดโรคปอดบวมในเด็ก ได้แก่ วัคซีนไอพีดี ซึ่งจะป้องกันโรคปอดบวมจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส วัคซีนไข้หวัดใหญ่ป้องกันโรคปอดบวมจากไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาลในปีนั้นๆ

 

 

ที่มา : สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 



สินค้าที่เกี่ยวข้อง

เขียนข้อคิดเห็น:

ชื่อ :

Email :

ข้อคิดเห็น :

รหัสป้องกันสแปม :


เพิ่มข้อคิดเห็น