สิบข้อเท็จจริงว่าด้วยอหิวาตกโรค | PG&P THAI

19-04-2013 12:26:25
(0) ที่ชื่นชอบ
   
(4408) เปิดดู

สิบข้อเท็จจริงว่าด้วยอหิวาตกโรค | PG&P THAI

โรคอหิวาต์เป็นโรคติดเชื้อที่ทำให้ท้องร่วง อันมีสาเหตุมาจากการย่อยอาหารหรือน้ำที่มีการติดเชื้อจากแบคทีเรีย Vibrio cholerae O1 หรือชนิด O139 นับว่าเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขในระดับโลก และเป็นตัวชี้วัดหลัก ของการขาดไปซึ่งพัฒนาการทางสังคม ไม่นานมานี้การกลับมาอุบัติอีกครั้งของโรคอหิวาต์ ได้รับการสังเกตว่ามันคู่ขนานไปกับขนาดของประชากรที่อาศัยอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกสุขอนามัย และมีจำนวนประชากรกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้น

1. โรคอหิวาต์ เป็นโรคที่ทำให้ท้องร่วงอย่างฉับพลัน ซึ่งสามารถคร่าชีวิตผู้คนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หากปล่อยไม่ได้รับการรักษา  อหิวาตกโรคเป็นการติดเชื้อในท้อง มีสาเหตุมาจากการย่อยของอาหารหรือน้ำ ที่มีการปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae O1 หรือชนิด O139 ซึ่งสามารถนำไปสู่การขาดน้ำอย่างรวดเร็วหากทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา

2. มีผู้คนเสียชีวิตราว หนึ่งแสนถึงสองแสนคนทุกปี เนื่องมาจากสาเหตุอหิวาตกโรค ในจำนวนดังกล่าว มีเพียงสัดส่วนน้อยนิดเท่านั้นที่ได้รับการรายงานส่งถึงองค์การอนามัยโลก มีการประมาณการกรณีผู้เป็นอหิวาตกโรคราว 3-5 ล้านคนต่อปีเมื่อเปรียบเทียบกับ กรณีที่ได้รับรายงานประจำปีโดยองค์การอนามัยโลก ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 178, 000-589, 000 กรณี

3. มากถึงร้อยละ 80 ของกรณีผู้ติดเชื้อ สามารถรับการรักษาให้หายขาดได้ด้วยผงเกลือแร่ หรือ Oral rehydration salts (ORS) อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ป่วยที่ขาดน้ำขั้นรุนแรงมาก ๆ ต้องการเพียงการดูแลด้วยการให้ของเหลวเพื่อการรักษา พวกเขายังคงต้องการยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อชะล้างความต่อเนื่องของท้องร่วง และทำให้ระยะเวลาของการถ่ายของเสียสั้นลง

4. ราวร้อยละ 75 ของผู้คนที่ติดเชื้อ Vibrio cholera O1 หรือ O139 ไม่พัฒนาอาการต่าง ๆ ส่วนในกลุ่มผู้ที่พัฒนาอาการจากอหิวาตกโรค ร้อยละ 80 มีอาการท้องร่วงปานกลางหรืออ่อน ที่ที่สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการสุขาภิบาลไม่มี เชื้อแบคทีเรียก็สามารถไหลกลับสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแหล่งการติดเชื้อที่มีศักยภาพต่อไป

5. พื้นที่เสี่ยงในการเป็นอหิวาตกโรค รวมเอาพื้นที่รอบ ๆ แหล่งสลัมในเมืองเข้าไปด้วย ซึ่งมีการเข้าถึงน้ำดื่มปลอดภัยที่จำกัด และการขาดการสุขาภิบาลที่ถูกต้องเหมาะสม ความเสี่ยงของอหิวาตกโรคเป็นความเสี่ยงสูงสุดในพื้นที่ที่โครงสร้างพื้นฐานขั้นธรรมดาไม่มี รวมถึงค่ายต่าง ๆ สำหรับกลุ่มประชากรพลัดถิ่นภายในประเทศหรือผู้ลี้ภัย ซึ่งเป็นที่ที่ความจำเป็นขั้นต่ำในเรื่องการสุขาภิบาลและน้ำดื่มสะอาดยังไม่มี

6. การเฝ้าระวังเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อแยกแยะ ชี้ชัดให้เห็นกลุ่มประชากรเสี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง การเฝ้าระวัง ควรจะให้แนวทาง การเข้าแทรกแซง และนำไปสู่การป้องกันให้ทันเวลาและมีกิจกรรมในการเตรียมรับมือ เมื่อการเกิดเหตุระบาดมีมาตามฤดูกาลสามารถคาดการณ์ได้ การป้องกันและควบคุมจะต้องได้รับการสร้างความแข็งแกร่ง อีกทั้งกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แผนการเตรียมตัว การฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาสุขภาพ และการเตรียมพร้อม กระจายตำแหน่งของอุปทาน ต้องเกิดขึ้น

7. อหิวาตกโรค เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยการจัดหาน้ำดื่มที่ปลอดภัยและการสุขาภิบาลที่ถูกต้องเหมาะสมให้มีอยู่หาได้ทั่วไป การควบคุมโรคนี้ไปไกลกว่าการพึ่งพาแต่เพียงรักษาทางการแพทย์ ในกรณีที่มีการเจ็บป่วย การมีบทบาทระหว่างการป้องกัน  การเตรียมตัว และการสนองตอบที่พุ่งเป้าไปที่ความปลอดภัยของน้ำ และการสุขาภิบาลที่เหมาะสม  รวมทั้งระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ  เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพื่อบรรเทา การระบาดและการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรค

8.  เมื่อการระบาดถูกตรวจพบ มันสำคัญที่จะพุ่งเป้าไปที่การรักษา และควบคุมมาตรการต่าง ๆ ยุทธวิธีการเข้าแทรกแซงแบบปกติ ในกรณีที่เกิดการระบาด คือการลดอัตราการเสียชีวิต โดยสร้างความเชื่อมั่นในการเข้าถึงแบบทันท่วงที เพื่อการรักษาที่เพียงพอ และเพื่อการควบคุม การแพร่กระจายของโรค โดยการจัดหาน้ำดื่มสะอาด การสุขาภิบาลที่เหมาะสม และการให้การศึกษาด้านสุขภาพเพื่ออนามัยที่ดีขึ้น และการปฏิบัติในการจัดการอาหารที่ปลอดภัยในชุมชน

9. ปัจจุบันวัคซีนต่อต้านเชื้ออหิวาต์ที่ให้ทางปาก ที่มีประสิทธิผลและปลอดภัย  เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเก็จควบคุมอหิวาตกโรค วัคซีนสองชนิดได้รับการรับรองคุณสมบัติก่อนหน้าโดยองค์การอนามัยโลกได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการในหลายๆ ประเทศ และได้แสดงให้เห็นว่า สามารถป้องกันแบบยั่งยืน ได้มากว่าร้อยละ 50 ในทุกกลุ่มอายุ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานสองปี ในกลุ่มประชากรที่มีอหิวาตกโรคแพร่ระบาด วัคซีนทั้งสองควรจะพุ่งเป้าไปที่ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง  การฉีดวัคซีนไม่ควรขัดขวางการจัดหา การเข้าแทรกแซงแบบอื่น ๆ เพื่อควบคุมหรือป้องกันการแพร่ระบาดของ    อหิวาตกโรค

10. ปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดบังคับให้แสดงหลักฐาน ว่าได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรค ให้เป็นดั่งเงื่อนไขในการเข้าประเทศ ประสบการณ์ในอดีตแสดงให้เห็นว่า มาตรการการกักกัน และการห้ามเคลื่อนย้าย คนและสินค้าเป็นเรื่องไม่จำเป็น



สินค้าที่เกี่ยวข้อง

เขียนข้อคิดเห็น:

ชื่อ :

Email :

ข้อคิดเห็น :

รหัสป้องกันสแปม :


เพิ่มข้อคิดเห็น